ไม่มั่นใจสถานการณ์ หวั่นสู้รบซ้ำปี54 พระสงฆ์-ชาวบ้าน เร่งสร้างบังเกอร์เพิ่ม

บุรีรัมย์ ไม่มั่นใจสถานการณ์ พระสงฆ์-ชาวบ้าน แนวชายแดนไทย เร่งปรับปรุง-สร้างหลุมหลบภัยเพิ่ม เตรียมรับแรงปะทะ เหตุถก JBC ไร้ข้อยุติ เขมรวางกำลังทหารประชิดชายแดน หันปืนใหญ่ใส่ไทย หลวงพ่อสวดภาวนา หวั่นสู้รบซ้ำรอยปี’54 สงสาร เด็ก-คนชรา วิ่งหนีตายภัยสงคราม

15 มิ.ย. 68 – พระสงฆ์และชาวบ้าน ที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน ในพื้นที่ ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ต่างไม่มั่นใจในสถานการณ์

หลังการเจรจาของตัวแทนทั้งสองประเทศ ที่ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ JBC เมื่อวานนี้ 14 มิ.ย. 68 กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ยังไม่มีข้อสรุป หรือมีทางออกเกี่ยวกับปัญหาข้อพิพาทแนวชายแดนที่เกิดขึ้น และทางกัมพูชายังได้มีการยื่นฟ้องต่อศาลโลก

อีกทั้งยังพบการวางกำลังของทหารกัมพูชาตามแนวชายแดนหลายจุด และยังมีการหันปืนใหญ่มายังฝั่งไทยด้วย จึงสร้างความกังวลใจให้กับ พระสงฆ์ และชาวบ้านในพื้นที่ตามแนวชายแดน เกรงจะเกิดการสู้รบกันซ้ำรอยปี 2554 มีกระสุนปืนหลายลูกตกใส่หมู่บ้าน ทั้งเด็ก คนชราวิ่งหลบกระสุนจ้าละหวั่น จนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนไปอยู่ศูนย์พักพิง

ทั้งพระสงฆ์ และชาวบ้าน ต่างภาวนาไม่ให้เกิดการสู้รบกัน อย่างไรก็ตามเพื่อความไม่ประมาททั้งผู้นำชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่ ต่างก็ช่วยกันปรับปรุงหลุมหลบภัยเก่าให้มีความมั่นคงแข็งแรงขึ้น และสร้างหลุมหลบภัยใหม่ ทั้งในหมู่บ้าน วัด และโรงเรียน เพื่อให้เพียงพอต่อการหลบภัย หากเกิดสถานการณ์สู้รบขึ้นจริง

พระยรรยงค์ ประภากะโร รักษาการณ์แทนเจ้าอาวาสวัดบ้านสายตะกู บอกว่า เดิมภายในวัดไม่มีหลุมหลบภัย แต่หลังเกิดเหตุปะทะที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี และแนวโน้มยังไม่มีข้อยุติ ทางราชการ รวมถึงผู้นำชุมชน และชาวบ้าน จึงได้มาทำการสร้างหลุมหลบภัยภายในวัด เพื่อให้ทั้งพระและโยมได้ใช้หลบภัยหากเกิดการสู้รบขึ้นจริงส่วนตัวอาตมาก็ได้สวดภาวนา ไม่อยากให้เกิดการสู้รบกับ อยากให้หาทางออกร่วมกันอย่างสันติ แต่หากเกิดเหตุปะทะขึ้นจริง ก็ภาวนาขอให้ทั้งทหารและประชาชนคนไทยปลอดภัย หากมีการอพยพก็จะให้เด็ก คนชราอพยพไปก่อน พระสงฆ์ก็จะขออยู่ที่วัด เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ และญาติโยมก่อน ซึ่งทางวัดเองก็ได้ติดต่อข่าวสารอย่างใกล้ชิดเช่นกัน