เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 30 เม.ย. 68 ที่ศูนย์ร่วมกตัญญหน้าตึก สตง.จตุจักร กทม. บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ และ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ร่วมกับมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้จัดพิธีเลี้ยงโต๊ะจีนจำนวน 10 โต๊ะ บริเวณหน้าอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่เกิดเหตุถล่มจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา
ด้าน บิณฑ์ เปิดเผยว่า ขณะนั่งสมาธิได้สัมผัสถึงดวงวิญญาณที่ร้องขอความช่วยเหลือ โดยกล่าวว่า “หิวข้าว” และต้องการเหล้า-บุหรี่ พร้อมทั้งขอให้มีการเอ่ยชื่อเพื่อให้สามารถมารับส่วนกุศลได้ จึงได้จัดโต๊ะจีนพร้อมอาหารไทย อีสาน จีน และอาหารฝรั่ง รวมถึงเหล้าและบุหรี่ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตจำนวน 103 ราย เรื่องนี้เป็นความเชื่อของตน ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับใครและตนคิดว่า ในเมื่อเขามาขอแค่นี้เองทำไมเราจะไม่จัดให้เขา
วันนี้ตนมาขออนุญาตทั้งพระสยามเทวาธิราช เจ้าที่เจ้าทาง ปู่ย่าตายาย ขออนุญาต ดวงวิญญาณทุกดวงวิญญาณออกมารับประทานอาหาร ตนจึงจัดให้ 10 โต๊ะ และมีโต๊ะจีนจากบุคคลที่ไม่ออกนามขอมาร่วมอีก 10 โต๊ะ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ จึงรวมเป็นทั้งหมด 20 โต๊ะ ปกติตรงนี้จะมีร้านลาบ ร้านอาหารอีสานอยู่ ซึ่งตอนนี้ปิดไปแล้ว พนักงานที่นี่ชอบมาร้านลาบ วันนี้จึงเอาอาหารอีสานอีกชุดหนึ่ง จัดไปให้ด้านในโต๊ะจีน
โดยพิธีเริ่มต้นเวลา 18.00 น. โดยมีเจ้าอาวาสจากวัดบางแวกเป็นผู้ประกอบพิธี มีการปักธูปหนึ่งดอกบนแต่ละโต๊ะ และรอจนธูปหมดจึงแจกจ่ายอาหารให้กับประชาชนที่มาร่วมงาน หลังจากเคลียร์พื้นที่และนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากบริเวณ สตง. แล้ว จะเลี้ยงเจ้าหน้าที่และทำบุญเลี้ยงพระใหญ่อีกครั้งหนึ่ง เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตทั้งหมด
ทั้งนี้ตนรู้สึกดีใจและสบายใจแล้ว มีการจัดการให้เรียบร้อยถือว่าเป็นการเอาโต๊ะจีนมาเลี้ยงให้ แค่ตนได้เข้าไปไหว้ก็รู้สึกอิ่มเอมใจและมีความสุข วันนี้มันปลอดโปร่งโล่งไปหมด ทุกอย่างรับรู้สิ่งที่เราทำ ดวงวิญญาณเทวดาฟ้าดินรับรู้ โดยเป็นการร่วมกันของส่วนตัวตนและมูลนิธิด้วยรวมถึงหลายๆ คนก็เข้ามาร่วมกันหมดเลย พอรู้เรื่องก็นำสิ่งของมาช่วยกันอย่างเต็มที่
โดยขั้นตอนจะมีพระอาจารย์ พระครูธีรธรรมานันท์ เจ้าอาวาสวัดบางแวก เข้ามาเปิดทุกอย่างก่อนจากนั้นตนจะอ่านรายชื่อ 103 คน และ เผากระดาษรายชื่อทั้งหมด แล้วจุดธูปปักตามโต๊ะแค่ดอกเดียวทุกโต๊ะ เมนูอาหารมีทั้งอาหารจีน ไทย และฝรั่ง รวมถึงอาหารอีสาน
ก่อนหน้านี้มีการนิมนต์พระมาแต่ตนมองว่าเป็นส่วนน้อยทีละนิดทีละหน่อย ส่วนตัวมองว่าเขาไม่สามารถรับประทานได้ เพราะไม่ได้เรียกชื่อเลย วันนี้ตนเรียกชื่อทุกคนสามารถมารับประทานได้ มีการบอกให้วนขวาและเรียกชื่อไปเรื่อยๆ เพราะแต่ละที่ไม่ได้อยู่จุดเดียว แต่วันนี้ทำไม่ได้เพราะ ตอนนี้กำลังทำงานกันอยู่อาจจะเกิดอันตราย ตนเลยตั้งใจจะเรียกทีเดียวจุดเดียว
ส่วนเรื่องจะกลัวดราม่านั้น ตนมองว่าจิตใจเราเป็นจิตใจที่บริสุทธิ์ ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ไม่ได้อยู่ในส่วนที่เขาทำงานกัน ถ้าจิตเราเท่ากับเขา เราจะมีความโกรธ แต่ถ้าจิตเราเหนือกว่าคนที่มาว่าเรา เราสามารถควบคุมตัวเองได้ ตนมองว่าทุกคนในโลกนี้นานาจิตตัง แล้วแต่ว่าใครจะพูดอะไรก็สามารถพูดได้ แต่ ณ วันนี้ ตนไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ตนทำในสิ่งที่ตนคิดว่า ทำแล้วก็ไม่ได้เสียหายอะไรแล้วก็ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนแค่นั้นเอง รวมถึงหลังจากนี้ก็จะเลี้ยงขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่อยู่ตรงนี้ และทำบุญเลี้ยงพระใหญ่
ด้าย เอกพันธ์ เปิดเผยว่า สิ่งที่คุณบิณฑ์ทำ มีดราม่าเยอะแยะมากมายเข้ามา ตนก็เลยตอบไปว่ามันเป็นความเชื่อส่วนบุคคล บางคนเค้าเชื่อเค้าก็ชื่นชมยินดี มันแล้วแต่ความคิดของแต่ละคน แต่สิ่งที่ตนและคุณบิณฑ์ทำวันนี้ตนมองว่าเป็นสิ่งที่ดีมากๆ วันนี้ต้องขอขอบคุณสำหรับโต๊ะจีน 20 โต๊ะที่มอบให้ พวกเราขออนุโมทนาสาธุ พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนทุกคน
หลังจากพิธีเสร็จสิ้น จะเชิญชวนประชาชนที่ไม่ถือสาในเรื่องนี้เข้าร่วมรับประทานอาหารโต๊ะจีน เพื่อเป็นการร่วมทำบุญและแบ่งปันส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ มูลนิธิร่วมกตัญญูยังคงดำเนินการนำส่งร่างผู้เสียชีวิตกลับภูมิลำเนาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
