DSIสอบปากคำ จนท.สตง.เป็นคณะกรรมการพิจารณา คัดเลือกผู้รับผิดชอบคุมงานตึก สตง

DSIสอบปากคำเจ้าหน้าที่ สตง.เป็นคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกผู้รับผิดชอบสัญญาการควบคุมงานตึก สตง.

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2568 จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 ความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือคดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ออกหมายเรียกพยานวิศวกรภายใต้กิจการร่วมค้า PKW จำนวน 40 ราย เข้าให้ปากคำชี้แจงกรณีมีรายชื่อและลายเซ็นปรากฏในเอกสารควบคุมงานตึก สตง.

โดยนัดหมายสอบสวนปากคำตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.68-2 พ.ค.68 รวม 4 วัน วันละ 10 ราย กระทั่งล่าสุด ได้มีวิศวกรเข้าพบพนักงานสอบสวน รวมทั้งสิ้น 38 ราย แบ่งเป็น ยอมรับว่าเซ็นควบคุมงานตึก สตง. จริง จำนวน 8 ราย และให้การว่าถูกปลอมลายเซ็น จำนวน 30 ราย

ขณะที่การสรุปสำนวนคดีพิเศษที่ 32/2568 ดีเอสไอเหลือเวลา 20 วัน เพื่อส่งสำนวนให้พนักงานอัยการคดีพิเศษ ก่อนพนักงานอัยการส่งศาลอาญารัชดาภิเษก ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

พ.ต.ท.อมร หงษ์ศรีทอง ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กองคดีฮั้วประมูล) เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าการสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 วานนี้ (7 พ.ค.) ได้มีการมอบหมายให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบปากคำเพิ่มเติมเจ้าหน้าที่ สตง. ซึ่งเป็นคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกผู้ควบคุมงาน “โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน”

โดยเหตุผลที่ต้องสอบปากคำคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกผู้ควบคุมงานฯ เนื่องจากว่าโครงการดังกล่าวนั้น ผู้ที่ได้รับสัญญาควบคุมงาน คือ กิจการร่วมค้า PKW (อันประกอบด้วย บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด , บริษัท ว. และสหายคอลซัลแตนตส์ จำกัด , บริษัท เคพี คอนชัลแทนส์ จำกัด)

ดังนั้น จึงต้องสอบถามในประเด็นว่าเหตุใด “กิจการร่วมค้า PKW” จึงได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ควบคุมงาน รวมถึงประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อาทิ หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกที่มีระบุไว้ตาม TOR (Terms of reference) การจัดทำข้อกำหนดเงื่อนไขของงาน ว่าเป็นไปตาม TOR ที่กำหนดไว้หรือไม่ เป็นต้น

นอกจากนี้ ไม่เพียงแต่สอบคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกผู้ควบคุมงานเท่านั้น แต่ยังต้องไปสอบสวนปากคำคณะกรรมการผู้พิจารณาคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้าง ผู้ออกแบบอีกด้วย ส่วนสำหรับการสอบสวนปากคำพยานวิศวกรที่เหลือ ที่ยังไม่ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนตามนัดหมายก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวนก็ยังดำเนินการในส่วนนี้อย่างต่อเนื่อง

หากวิศวกรรายใดเข้าพบให้การชี้แจงก็จะต้องสอบสวนปากคำพิจารณานำเข้าสำนวนเช่นเดิม แต่เนื่องด้วยกรอบระยะเวลาที่เหลือของดีเอสไอในการทำสำนวนคดีนอมินี เหลืออยู่ประมาณ 20 วัน จึงต้องเร่งรัดในส่วนสาระสำคัญอื่นประกอบด้วย เพื่อที่จะได้มีการประชุมของคณะพนักงานสอบสวน ในการสรุปสำนวนก่อนนำส่งพนักงานอัยการคดีพิเศษตามขั้นตอนต่อไป