ในไลฟ์สดครั้งนี้ ดิวเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแต่พยายามกลั้นน้ำตา โดยกล่าวว่า “ตั้งใจจะไม่ร้องไห้ เพราะดราม่าที่ผ่านมาทำให้ดิวหายไป ทำให้ไม่ได้มีโอกาสพูดอะไรกับใครเลย ยิ่งหายไปนานก็ยิ่งรู้สึกกลัว กังวลใจในการที่จะกลับมาเจอทุกคน ดังนั้นจึงหายไป”
เธอยังเผยอีกว่า การกลับมาครั้งนี้เพื่อต้องการ “ขอโทษทุกคนด้วยใจของดิว ด้วยตัวของดิว เพราะไม่เคยได้มีโอกาสออกมาพูด ขอโทษทุกคนที่ทำให้เกิดผลกระทบ ทุกๆ ทาง ทั้งทางตรงและทางอ้อม ขอบคุณคนที่เชื่อและรัก ขอโทษจากใจที่ทำให้รู้สึกผิดหวัง”

เธอยืนยันว่าการกลับมาไลฟ์สดครั้งนี้ไม่ได้มาเพื่อแก้ตัว แต่รู้สึกว่า “ทางออกไม่ใช่การแก้ตัว คือการยอมรับความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ขอแก้ตัวอะไร อยากให้ความผิดของดิวเป็นบทเรียน เป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตของใครหลายๆ คน ต่อให้โดนต่อว่า ถ้าเป็นแบบอย่าง อุทาหรณ์ให้ได้ยินดี ดูดิวเป็นตัวอย่าง อย่าพลาด อย่าทำแบบดิว”
นักแสดงสาวยังกล่าวถึงการหายหน้าไปว่า “วันนี้เดินมาถึงจุดๆ หนึ่งในชีวิตว่าเป็นอย่างไร อะไรคืออยู่บนความเป็นจริง ที่ไม่ใช่วัตถุ ภาพพจน์ ดิวหายไปคือไปเคลียร์ตัวเอง ดิวไม่ได้วิ่งหนี ดิวเดินออกมาตั้งหลัก” เธอยืนยันว่าจะกลับประเทศไทยอย่างแน่นอน เพราะ “ไทยคือบ้านของดิว ที่โพสต์ว่าคิดถึง คือคิดถึงจริงๆ อยากให้รู้ว่ารู้สึกอย่างไร”

ดิวเปิดเผยถึงความรู้สึกในตอนนี้ว่า “ตอนนี้ใจของดิว มันกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น มานั่งไลฟ์วันนี้ทำใจหนักมาก ไม่ใช่เพราะอะไร เหมือนเราที่จะเริ่มใหม่ การที่เรามาโชว์หน้าบนนี้ นี่คือการสื่อที่ถูกไหม มันไม่ได้ราบรื่น ขอให้ทุกคนเข้าใจดิวตรงนี้” พร้อมทั้งขอบคุณทุกคอมเมนต์ที่ให้กำลังใจ
ในส่วนของปัญหาหนี้สิน ดิวกล่าวอย่างชัดเจนว่า “ถึงเจ้าหนี้ ทุกคนได้เงินของตัวเองคืนแน่นอน ดิวไม่วิ่งหนี” เธอยังหวังว่าการไลฟ์สดในครั้งนี้จะทำให้เธอได้รับโอกาสจากผู้ชม “โอกาสเล็กๆ มีโอกาสดิว ได้มีเงิน ได้ใช้หนี้ เพื่อตัวดิว จะได้กลับไปอยู่ที่ไทย เพื่อเป็นดิวคนใหม่ ขอใช้ช่องทางนี้ให้โอกาสดิวด้วย เชื่อว่าถ้าดิวมีความดี ดิวขอให้ความดีของดิว ให้ใครเห็นใจ ให้โอกาสเล็กๆ น้อยๆ”
ดิวทิ้งท้ายด้วยวลีที่ว่า “ตราบใดถ้าเรามีลมหายใจทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ” และกล่าวว่าสิ่งที่เจอทำให้เธอได้พบเจออะไรหลายอย่าง “อะไรที่หายไปกลับเข้ามาในชีวิต คนที่เคยอยู่หายไปในชีวิต”






