ชาวบ้านสุรินทร์ ในศูนย์อพยพ เผยได้ยินเสียงระเบิด ดังเกือบ 30 ครั้ง หลังพาหลานไปส่งโรงเรียน อยากให้เหตุการณ์จบลงโดยเร็ว
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 24 ก.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์อพยพในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ประชาชนในพื้นที่ติดกับชายแดนแนวปะทะ ได้เดินทางอพยพเข้ามาอยู่ในพื้นที่ประมาณ 1,000 กว่าคน โดยสถานที่แห่งนี้สามารถรองรับประชาชนที่จะอพยพเข้ามาได้กว่า 2,000-7,000 คน โดยได้โดยเจ้าหน้าที่ได้เตรียม อาคารที่พัก โรงครัวพระราชทาน สุขาและสุขาเคลื่อนที่ พร้อมกับห้องอาบน้ำชั่วคราวมาให้บริการผู้ประสบภัย
โดยนายมวลและนางจริต ชาวบ้านที่อพยพมาจาก อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ช่วงเช้าเวลาประมาณเกือบ 09.00 น. ตนไปส่งหลานที่โรงเรียนแต่หลังจากนั้นได้ยินเสียงคล้ายกับปืนแล้วก็ระเบิดดังต่อเนื่องเกือบ 30 ครั้ง จึงรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากตนนั้นเป็นทหารเก่า หน่วยรบพิเศษ และเคยประจำอยู่ที่จุดพนมดงรัก ตนจึงได้บอกให้หลานและครอบครัวรีบเก็บข้าวของที่จำเป็นเช่นเอกสารส่วนตัว ติดตัวออกมาให้เร็วที่สุดส่วนตัวคิดว่าเหตุการณ์นี้มันต้องเกิดขึ้นแน่นอนเพราะว่าที่ผ่านมา ทหารอีกฝ่ายก็ยั่วยุมาโดยตลอดและคนไทยเป็นคนใจดี ก็ไม่ได้ลงมือทำ ในฐานะที่ตนเป็นทหารเก่ามา ยอมรับว่าเคยเผชิญหน้ากับทหารเขมรที่พนมดงรัก ก็มักจะโดนอีกฝ่ายยั่วยุ ทำท่าเป็ด ทำท่าล้อเลียนตลอด แต่เราไม่เคยตอบโต้อะไรเลย มาครั้งนี้ยอมรับว่าเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงมาก
ตนรู้สึกสงสารทหารรุ่นน้องที่ต้องเผชิญกับความสูญเสีย มันเป็นอะไรที่สะเทือนใจมาก มองว่าทหาร ฝั่งเขมรเป็นทหาร ที่ไม่ซื่อสัตย์ไม่จริงใจ พร้อมกับ อยากให้เรื่องราวนี้จบลงโดยเร็ว เนื่องจากชาวบ้านที่อพยพมาก็ไม่ได้มีการเตรียมตัว อย่างตนเองก็รู้สึกเป็นห่วงกบที่เลี้ยงอยู่ที่บ้านกว่า 1 แสนตัว ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง




